Progame2win

Death’s Door

หากเอื้อนเอ่ยถึงเกมดังในตำนานอย่าง Zelda และ Dark Souls คงไม่มีเกมเมอร์คนไหนไม่รู้จักเป็นแน่

เพราะมันขึ้นชื่อถึงระดับความยากที่มากถึงขั้นสุด แต่สุดท้ายมันก็มีคนที่สามารถพิชิตเกมนี้ได้อยู่ดี

และ 2 เกมนี้แหละที่ถือว่าเป็นต้นแบบให้ค่ายต่าง ๆ นำไปใช้สร้างเกมของตัวเอง

Death’s Door

ขอบคุณภาพจาก : beartai

เหมือนกับค่าย Acid Nerve ที่ได้นำเอาทั้ง 2 รูปแบบของ เกมคอนโซล ที่ว่ามาไปรวมกัน แล้วก็เกิดเป็นเกม

Death’s Door” ขึ้น หากอยากลองเข้าถึงดูก็ไปเล่นได้บน เครื่องเกม PS4 / PS5, เครื่องเกม Xbox One,

เครื่องเกม Xbox Series X / S, เครื่องเกม Nintendo Switch และ เครื่องเกม PC

ระบบเนื้อเรื่อง

เรื่องราวในเกมเดินเรื่องด้วย อีกา ที่ไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้วว่ามันมีหน้าตาน่ากลัวหน่อย ๆ

แถมหน้าที่การทำงานของมันก็เกี่ยวกับความตายอีก เพราะว่ามันจะต้องคอยตามเก็บวิญญาณของสัตว์ที่ตายไปแล้ว

พร้อมกับ การต่อสู้ กับ Boss เพื่อเปิดประตูแห่งความตายบานใหม่ ซึ่งตอนจบบางอย่างก็มีหักมุมด้วย

Death’s Door

ขอบคุณภาพจาก : beartai

ระบบ Gameplay

รูปแบบการเล่น

รูปแบบการเล่น ในเกมเป็นแนว Action 2D ที่ใช้มุมมองด้านบน ที่ดูแล้วก็ไม่ได้มีความแตกต่าง

จากเกมอื่นสักเท่าไหร่ ส่วนการออกแบบภาพก็ยังไม่มีความละเอียดมากนัก แต่ถ้ามองภาพรวมแล้วว่า

มันเป็นเกมที่มาจากการสร้างของค่ายเล็ก ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างรับไหว

การต่อสู้

ด้วยความที่ตัวเกมมี Action มันก็เลยไม่แปลกที่ว่าจะต้องมี การต่อสู้ เข้ามาระหว่างการเดินเกม

แต่อย่าเพิ่งคิดว่ามันจะผ่านไปได้ง่าย ๆ เพราะระดับความยากของมันอยู่ในขั้นสูง

ถึงแม้ศัตรูจะเป็นระดับกิ๊กก๊อกก็ใช่ว่าผู้เล่นจะจัดการได้ในครั้งเดียว แต่ถ้าจังหวะดีก็น่าจะช่วยได้แหละ

Death’s Door

ขอบคุณภาพจาก : beartai

การใช้อาวุธ

ซึ่ง การต่อสู้ แบบมือเปล่าไม่ใช่ทางเลือกของเกมแนวนี้ เพราะส่วนใหญ่แล้วก็จะมี การใช้อาวุธ

เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ชนะมากขึ้น แต่เกมนี้อาจมีตัวเลือกให้เพียงไม่กี่อย่าง เอาเป็นว่าถ้ามีฝีมือดี ๆ

แล้วกะจังหวะการสวนกลับ หรือการหลบหลีกให้ถูกก็รอด แต่ถ้าไม่ไหวก็แค่กลับไปยังประตูก่อนที่จะตายแค่นั้นเอง

การแก้ไขปริศนา

อย่าลืมว่าในสมัยนี้การผสมผสานถือเป็นจุดขาย ถ้าหากมีแนวการเล่นแค่แบบเดียว ก็ไม่อาจทำให้ตัวเกมมีความน่าสนใจ

ดังนั้น เกมนี้จึงได้มีการเพิ่ม การแก้ไขปริศนา เข้ามาให้เล่นพอแก้ขัด แต่ก็ต้องอาศัยการสังเกตนิดหนึ่ง

เนื่องจากว่าตัวเกมไม่สามารถปรับมุมกล้องได้ บางอย่างก็เลยมองเห็นยากหน่อย

Death’s Door

ขอบคุณภาพจาก : beartai

ที่มา : beartai

นักเขียน : Benjawirar